คำสอนของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
คือ บารมีของตน ลงทุนไปก่อน เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอ จึงค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่วย
มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะหนี้สินในบุญบารมีที่เที่ยวไปขอยืมมาจนพ้นตัว
เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมา ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัว
แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า
มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะหนี้สินในบุญบารมีที่เที่ยวไปขอยืมมาจนพ้นตัว
เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมา ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัว
แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า
หมั่นสร้างบารมีไว้ แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง
จงจำไว้นะ...เมื่อยังไม่ถึงเวลา เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้
ครั้นถึงเวลาทั้งฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน
เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า"
คำสอนนี้ทำให้ตัวเราฉุดคิดอะไรหลายๆอย่างได้ เพราะตลอดเวาที่ผ่านมาเราทำแบบนั้นจริง
ไม่ว่าจะไหว้ขอพรจากเทพเทวดาทั้งหลายโดยที่ ไม่ใส่ใจจะทำความดีมากมาย
ได้แต่ขอๆสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย พอไม่ได้ดังหวังก็หมดกำลังใจไหว้
ได้แต่ขอๆสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย พอไม่ได้ดังหวังก็หมดกำลังใจไหว้
และไปไหว้ที่ใหม่ต่อไป เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าที่ทำถูกหรือผิด
พอได้อ่านคำสอนของหลวงพ่อโต ก็ทำให้มองเห็นอะไรๆหลายๆอย่าง ถูกต้องจริงๆถูกต้องทั้งหมด
นี่คือสาเหตุ ขอพรแล้วไม่ได้ ขอพรแล้วไม่สมหวัง อย่าโทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์เด็ดขาด
ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านไม่เมตตาเรา แต่เพราะเราเองที่มีบุญไม่พอให้ท่านช่วย
ที่เขาเรียกว่าบุญบารมีไม่ถึงนั้นเอง ถ้าเรายังมีบุญไม่พอก็จงสร้างด้วยตนเอง อย่ารอพึ่งใคร
นี่คือสาเหตุ ขอพรแล้วไม่ได้ ขอพรแล้วไม่สมหวัง อย่าโทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์เด็ดขาด
ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านไม่เมตตาเรา แต่เพราะเราเองที่มีบุญไม่พอให้ท่านช่วย
ที่เขาเรียกว่าบุญบารมีไม่ถึงนั้นเอง ถ้าเรายังมีบุญไม่พอก็จงสร้างด้วยตนเอง อย่ารอพึ่งใคร
จงพึ่งตนเองก่อน ดั้งคำสอนที่พระพุทธเจ้าได้สอนไว้ว่า ตนคือที่พึ่งแห่งตน
สาธุ สาธุ สาธุ
ให้เราปฎิบัติ ทาน ศิล ภาวนา ต่อเนื่องทุกวันห้ามขาดระยะเวลาขึ้นอยู่กับบุคคลนะ
ตอบไม่ได้ว่านานแค่ไหน แต่รับรองว่า ดีแน่ต่อตัวคุณค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น